1. กามฉันทะ
1.1 พิจารณาความไม่ดีของกาม มีคุณน้อย มีทุกข์มาก ทำให้จิตไหลลงต่ำ ยิ่งติดใจในรสของกามคุณ ก็ยิ่งต้องไขว่คว้า มีโอกาสให้จิตทำอกุศลอื่นๆ
1.2 ทุกสิ่งล้วนชั่วคราวไม่มีอะไรอยู่ไปตลอด
1.3 พิจารณาลึกลงไปในสิ่งนั้นๆ เป็นเพียงส่วนประกอบต่างๆที่มาอยู่รวมกัน ใจไปปรุงแต่งว่าสวยว่าดี

2. พยาบาท (ความคิดร้าย, ความขัดเคืองแค้นใจ — illwill)
2.1 แผ่เมตตา มองทุกอย่างว่ามีเหตุมีผล ทุกสิ่งล้วนเกิดจากผลของการกระทำ ทุกคนมีทุกข์เป็นของตนเอง
2.2 การให้อภัยก็เกิดความสบายใจแก่ตนเอง ทำให้เราปล่อยวางสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตสร้างความสงบแก่ตนเอง

3. ถีนมิทธะ (ความหดหู่และเซื่องซึม — sloth and torpor)
3.1 เข้าใจถึงโอกาสอันดีที่เกิดเป็นมนุษย์ และได้พบกับหลักพระธรรมของพระพุทธเจ้า เรามีโอกาสน้อยมากและถือว่าโชคดีที่สุดที่ได้มาพบหลักธรรมเหล่านี้ เร่งภาวนาสะสมบุญเพื่อเป็นเสบียงบุญให้เราพบแต่ความสุขยิ่งๆขึ้นไปตลอดกาลนาน หรือเข้าสู่นิพพานโดยเร็ว
3.2 หากง่วงมากก็ล้างหน้า เปลี่ยนอิริยาบถ พักผ่อนให้เพียงพอ

4. อุทธัจจกุกกุจจะ (ความฟุ้งซ่านและร้อนใจ, ความกระวนกระวายกลุ้มกังวล — distraction and remorse; flurry and worry; anxiety)
4.1 ใช้ลมหายใจเป็นบ้าน หายใจเข้าออกให้รู้ลมตลอด เข้า ออก หยุด
4.2 หากยังร้อนใจให้เข้าพิจารณาเรื่องที่ร้อนใจว่าเป็นเรื่องชั่วคราว ยังไงสุดท้ายแล้วเราทุกคนต้องตาย เรื่องที่สำคัญที่สุดคือเข้าใจอริยสัจ 4 สะสมบุญ ละความหลงในโลกอย่างรวดเร็ว
4.3 อดีตคือสิ่งที่ผ่านไปแล้วไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เราสามารถอยู่กับปัจจุบันและทำสิ่งที่ดีงาม เป็นกุศลเพื่อส่งผลให้อนาคตเป็นประโยชน์กับตนเองและผู้อื่น

5. วิจิกิจฉา (ความลังเลสงสัย — doubt; uncertainty)
5.1 หากมีความลังเลสงสัยในธรรมะ ก็หาความรู้เพิ่มเติมอะไรที่ไม่เข้าใจก็ทำให้เข้าใจ  สอบถามผู้รู้ ยิ่งปัจจุบันสามารถค้นคว้าข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ได้ มี AI คอยให้คำแนะนำ และให้คำตอบได้อย่างแม่นยำ ถูกต้อง แต่อย่าลืมตรวจสอบคำตอบนั้นๆว่าเป็นจริงตามหลักธรรมะหรือไม่ ตามหลักพุทธศาสนา